การดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชน
สิทธิมนุษยชน เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของทุกคน รวมถึงผู้มีส่วนได้เสียตลอดห่วงโซ่คุณค่าของกิจการ บริษัทฯ จึงมีการดำเนินงานโดยคำนึงถึงหลักมนุษยธรรมอย่างจริงจังและผลักดันให้เป็นส่วนนึงของวัฒนธรรมองค์กร โดยจัดให้มีการกำกับดูแลไม่ให้มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนในทุกขั้นตอนของการดำเนินงาน บริษัทฯ จึงกำหนดนโยบายให้สอดคล้องและเป็นไปตามแนวทางสากลด้วยหลักปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (Universal Declaration of Human Rights: UDHR) หลักการชี้แนะว่าด้วยธุรกิจและสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UN Guiding Principle on Business and Human Rights: UNGPs) หลักการและสิทธิขั้นพื้นฐานในการทำงานขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO Declaration on Fundamental Principles and Rights at work) และกฎหมายแรงงานของราชอาณาจักรไทย ดังนี้
นโยบายคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
- ปฏิบัติต่อทุกฝ่ายด้วยความเท่าเทียม ไม่แบ่งแยกเพศ เชื้อชาติ และศาสนา
- ไม่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง
- ระมัดระวังการดำเนินธุรกิจเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชน
- ไม่ใช้และไม่สนับสนุนคู่ค้าที่ใช้แรงงานผิดกฎหมายทุกประเภท
- จัดให้มีการสื่อสาร เผยแพร่นโยบายแก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย
- สอดส่องดูแลเรื่องการเคารพสิทธิมนุษยชนในทุกขั้นตอนของการปฏิบัติงาน
- ให้ความสำคัญกับสิทธิ เสรีภาพและการแสดงความคิดเห็นของชุมชน โดยเชื่อมั่นว่าชุมชนถือเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้เข้มแข็ง มุ่งมั่นที่จะพัฒนาและส่งเสริมการดำเนินชีวิตของชุมชนผ่านโครงการต่างๆอย่างยั่งยืน
- มุ่งสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ยึดมั่นต่อการเคารพสิทธิมนุษยชน
- จัดให้มีกระบวนการประเมินและระบุประเด็นความเสี่ยงด้านการละเมิดสิทธิมนุษยชนและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
- กำหนดให้มีบทลงโทษสำหรับผู้กระทำผิดจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นสูงสุด คือ เลิกจ้าง
- จัดให้มีการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างเหมาะสม
- ไม่ล่วงละเมิดและคุกคามทางเพศทั้งทางกาย วาจาและจิตใจ
- ให้ความสำคัญและปฏิบัติตามหลักการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบ เพื่อป้องกันการผลกระทบเชิงลบที่จะมีต่อชุมชน, สังคมและผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มตลอดห่วงโซ่คุณค่าธุรกิจของบริษัท
บริษัทฯ ยึดมั่นและปฏิบัติตามกรอบการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชนตามหลักการ UNGP อย่างจริงจังเพื่อแสดงความรับผิดชอบด้านสิทธิมนุษยชนของการเป็นผู้ประกอบการในการประกอบธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยได้มีการตรวจสอบประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน (Human Rights Due Diligence: HRDD) ซึ่งเป็นกระบวนการประเมินความเสี่ยงและผลกระทบที่จะเกิดหรืออาจจะเกิดขึ้นจากการประกอบธุรกิจ มีการพิจารณทุกประเด็นครอบคลุมตลอดห่วงโซ่อุปทาน เพื่อป้องกันความเสี่ยงและวางแผนรับมืออย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ บริษัทฯ มุ่งมั่นแสดงจุดยืนที่เข้มแข็งในการประกาศนโยบายระดับองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนที่ชัดเจนต่อบุคลากรภายในและสาธารณะโดยผู้บริหารสูงสุด พร้อมทั้งปลูกฝังและให้ความรู้กับพนักงานอย่างต่อเนื่อง มีกระบวนการป้องกัน เยียวยา แก้ไขผลกระทบและความเสียหาย หากเกิดเหตุการณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชนขึ้นในองค์กร โดยมีกลไกการร้องทุกข์ สร้างมาตรการเคารพและป้องกันผลกกระทบด้านสิทธิมนุษยชนอย่างรอบคอบไว้ในทุกขั้นตอนของการดำเนินธุรกิจ รวมถึงมีการติดตามและรายงานผลอย่างต่อเนื่อง เพื่อวัดผลการป้องกันและแก้ไขปัญหา นอกจากนี้ บริษัทฯ มีการเปิดเผยผลการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชนตามหลักการรายงานสากลที่ได้รับการยอมรับทุกปีอย่างต่อเนื่อง
กระบวนการตรวจสอบด้านสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน (Human Rights Due Diligence)
บริษัทฯ ได้มีการกำหนดกระบวนการตรวจสอบด้านสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน (Human Rights Due Diligence) โดยมีจุดประสงค์เพื่อระบุความเสี่ยงและป้องกันการละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือผลกระทบด้านลบอื่น ๆ ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากการดำเนินธุรกิจและกิจกรรมอื่น ๆ ตลอดห่วงโซ่คุณค่า รวมถึงกำหนดกระบวนการแก้ไขเยียวยาในกรณีที่เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยมีขั้นตอนการดำเนินงานดังนี้
1. การประกาศนโยบายด้านสิทธิมนุษยชน (Policy commitment)
บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ได้ประกาศ “นโยบายสิทธิมนุษยชนและการปฏิบัติต่อแรงงาน” โดยสอดคล้องและเป็นไปตามแนวทางสากลด้วยหลักปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (Universal Declaration of Human Rights: UDHR) หลักการชี้แนะว่าด้วยธุรกิจและสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UN Guiding Principle on Business and Human Rights: UNGPs) หลักการและสิทธิขั้นพื้นฐานในการทำงานขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO Declaration on Fundamental Principles and Rights at work) รวมถึงกฎหมายแรงงานของราชอาณาจักรไทย ซึ่งมีการปรับปรุงเป็นประจำทุกปีและได้รับการตรวจสอบและเห็นชอบจากคณะกรรมการบริษัทฯ
2. การวิเคราะห์ประเมินความเสี่ยงและผลกระทบ (Actual and Potential Risk and impact assessment)
บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ได้ระบุและตรวจสอบประเด็นความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ ตลอดห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจเป็นประจำทุกปี ซึ่งมีการดำเนินการอย่างเป็นระบบ ดังนี้
2.1.1 การระบุปัญหาด้านสิทธิมนุษยชน (Identify Human Rights Issues)
บริษัทฯ พิจารณาประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนที่มีอยู่หรืออาจเกิดขึ้นกับบริษัทฯ ตลอดห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจ โดยประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนที่อาจเกิดขึ้นซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบต่อผู้ถือสิทธิที่เกี่ยวข้อง (พนักงาน ลูกค้า ชุมชน ซัพพลายเออร์ และผู้รับเหมา) ได้แก่ กลุ่มเปราะบาง ซึ่งมีประเด็นต่าง ๆ ได้แก่ การเลือกปฏิบัติและการคุกคาม สิทธิในความเป็นส่วนตัว สิ่งแวดล้อม ปัญหาและสิทธิชุมชน การค้ามนุษย์ แรงงานบังคับ แรงงานเด็ก สภาพการทำงาน ค่าตอบแทนที่เท่าเทียมกัน เสรีภาพในการสมาคม สิทธิในการ การเจรจาต่อรอง
2.1.2 การกำหนดขอบเขตในการระบุประเด็นด้านสิทธิมนุษยชน
บริษัทฯ ได้กำหนดขอบเขตในการประเมินประเด็นด้านสิทธิมนุษยชน ดังนี้
ประเด็นด้านสิทธิมนุษยชน | |
---|---|
ลูกค้า |
- การเลือกปฏิบัติในการปล่อยสินเชื่อและการให้บริการ - ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลลูกค้า - การป้องกันการฟอกเงิน - สุขภาพและความปลอดภัย - การจัดการเรื่องร้องเรียนอย่างเป็นธรรม |
พนักงาน | - สุขภาพและความปลอดภัย - สภาพแวดล้อมในการทำงาน - สภาพการจ้างงาน - การเลือกปฏิบัติในสถานที่ทำงาน - ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลพนักงาน - กระบวนการสรรหาพนักงานอย่างไม่เป็นธรรม - การจ้างแรงงานผิดกฏหมาย - การจ่ายค่าตอบแทนหรือการเลิกจ้างอย่างไม่เป็นธรรม - เสรีภาพในการสมาคม และ การเจรจาต่อรองกับนายจ้าง |
คู่ค้า | - การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล - การปฏิบัติต่อคู่ค้าอย่างไม่เป็นธรรม - สุขภาพและความปลอดภัย |
2.2 – 2.4 การประเมินระดับความเสี่ยง มาตรการบรรเทาผลกระทบและการจัดลำดับความสำคัญของประเด็นความเสี่ยง
การประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนครอบคลุมการดำเนินงานของบริษัทฯ และพิจารณากลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตลอดห่วงโซ่คุณค่า เช่น พนักงาน ลูกค้า และคู่ค้าของบริษัทฯ โดยการพิจารณาระดับความเสี่ยงของประเด็นสิทธิมนุษยชน 2 มิติ ได้แก่ ผลกระทบ และโอกาสที่จะเกิด ซึ่งแบ่งความเสี่ยงของประเด็นสิทธิมนุษยชนออกเป็น 4 ระดับ ได้แก่
เมื่อมีการประเมินระดับความเสี่ยงแล้ว บริษัทฯ ได้จัดลำดับประเด็นความเสี่ยงที่สำคัญในด้านสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นประเด็นที่อาจส่งผลกระทบต่อกิจการและการดำเนินงานของบริษัท โดยจำแนกออกมาได้จำนวน 4 ประเด็น ดังนี้
1) สภาพการจ้างงาน
2) การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล
3) การใช้แรงงานผิดกฎหมายในห่วงโซ่อุปทาน
4) การเลือกปฏิบัติต่อพนักงาน
3. กระบวนการตรวจสอบด้านสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน
ในขั้นตอนของการกำหนดกระบวนการตรวจสอบด้านสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน (Human Rights Due Diligence) มีจุดประสงค์เพื่อระบุและประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนที่อาจเกิดขึ้นในองค์กร รวมถึงการจัดลำดับความสำคัญและการบริหารจัดการความเสี่ยงแบบบูรณาการ อีกทั้งยังกำหนดกระบวนการแก้ไขเยียวยาในกรณีที่เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนในองค์กร โดยสรุปเป็นตาราง ดังนี้
ประเด็นความเสี่ยง | ผลกระทบ | การประเมิน | แผนการจัดการความเสี่ยง | ตัวชี้วัด | |
---|---|---|---|---|---|
ระดับผลกระทบ | ระดับโอกาส | ||||
สภาพการจ้างงาน |
การบังคับพนักงานให้ทำงานล่วงเวลา | 3 | 3 | จัดให้มีช่องทางการรับเรื่องร้องเรียน | เหตุการณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชนเป็น 0 เหตุการณ์ |
การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล | - การรั่วไหลข้อมูลส่วนบุคคลของคู่ค้าและพนักงาน
- การนำข้อมูลของลูกค้าไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต |
4 | 3 | กำหนดมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม และสอดคล้องกับการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคล | |
การใช้แรงงานผิดกฎหมายในห่วงโซ่อุปทาน | - การจ้างแรงงานเด็กและแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย | 3 | 3 | เผยแพร่จรรยาบรรณคู่ค้า และจัดให้มีกระบวนการในการประเมินประเด็นความเสี่ยงด้านการละเมิดสิทธิมนุษยชนของคู่ค้า | |
การเลือกปฏิบัติต่อพนักงาน | - การปฏิบัติอย่างไม่เสมอภาคและไม่เป็นธรรมภายในองค์กร | 4 | 4 | กำหนดบทลงโทษแก่ผู้กระทำผิดและจัดอบรมเพื่อสร้างความตระหนักให้แก่พนักงาน รวมถึงสร้างวัฒนธรรมเชิงบวกในด้านความเท่าเทียมให้กับองค์กรเพื่อให้พนักงานมีความเคารพซึ่งกันและกัน |
บริษัทฯ หมั่นตรวจสอบและสร้างความตระหนักแก่พนักงานในเรื่องของสิทธิมนุษยชนอย่างต่อเนื่อง ให้สอดคล้องกับแผนปฏิบัติงานและนโยบายด้านสิทธิมนุษยชน เพื่อลดประเด็นความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น พร้อมทั้งสื่อสารผลการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชนเป็นประจำทุกปีผ่านรายงานความยั่งยืนและรายงานประจำปี
4. การติดตามและรายงานผลการดำเนินการ
บริษัทฯ ได้กำหนดหลักการพื้นฐานในการแจ้งเบาะแสด้านสิทธิมนุษยชนและความปลอดภัยในการปฏิบัติงานผ่านช่องทางแจ้งเบาะแสทุจริตของบริษัท โดยสนับสนุนให้มีการรายงานของพนักงานหรือการกระทำของผู้ที่เกี่ยวข้องที่อาจฝ่าฝืนกฎหมาย นโยบายและขั้นตอนด้านสิทธิมนุษยชน นอกจากนี้, ผู้แจ้งเบาะแสและผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับการคุ้มครองตามความเหมาะสม ข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องจะถูกติดตาม และตรวจสอบได้พร้อมทั้งรายงานความคืบหน้าและผลไปยังผู้แจ้งเบาะแสและคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องเพื่อรับทราบ
- กำหนดชั้นความลับ
- ประสานงานไปหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ
ลงทะเบียนและส่งเรื่อง
- รวบรวมเอกสารหลักฐาน
- พิจารณาผลกระทบความรุนแรง
รวบรวมข้อเท็จจริงและสั่งการ
-
ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ เพื่อสอบสวน
ข้อเท็จจริง - พิจารณาผลการสอบสวน
- สั่งการบทลงโทษ (ถ้ามี)
สอบสวนข้อเท็จจริง
- รายงานผลดำเนินการให้ผู้ร้องเรียนทราบ
- ติดตามผลการปรับปรุงแก้ไข
- รายงานคณะกรรมการบริหาร รับทราบ
แจ้งผลสรุปต่อผู้ร้องเรียนและปรับปรุงแก้ไข
5. มาตรการแก้ไขและเยียวยา
แม้ว่าในปี 2566 บริษัทฯ ยังไม่พบประเด็นและข้อร้องเรียนในเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้ตระหนักถึงการสร้างมาตรการป้องกันและบรรเทาความเสี่ยง รวมถึงการเยียวยา โดยจัดให้มีช่องทางในการรับเรื่องร้องเรียนและแจ้งเบาะแสให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างเหมาะสม ทั้งในรูปแบบตัวเงิน เช่น การจ่ายเงินชดเชยค่าเสียหาย และไม่ใช่ตัวเงิน เช่น การเปิดโอกาสรับฟังความคิดเห็น และการให้คำปรึกษาแก่ผู้เสียหายผ่านช่องทางต่าง ๆ ทั้งนี้หากมีกรณีการละเมิดสิทธิมนุษยชน บริษัทฯ จะดำเนินการตามกระบวนการสอบสวนอย่างเป็นธรรม และมีมาตรการในการลงโทษผู้กระทำผิดตามระเบียบและข้อบังคับของบริษัทต่อไป