การบริหารทรัพยากรบุคคลของ MTC
บุคลากรถือเป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อนองค์กร บริษัทฯ มุ่งเน้นที่จะบริหารทรัพยากรบุคคลให้มีความเชี่ยวชาญในแต่ละด้านมีความเหมาะสมกับตำแหน่งนั้นๆ รวมถึงผลักดันให้พนักงานเติบโตตามเส้นทางที่มุ่งหวังไว้ตลอดจนส่งเสริมให้พนักงานทำงานได้หลากหลาย มีหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกผู้สมัครพิจารณาถึงความสามารถของผู้สมัคร คัดสรรหาบุคคลผู้มีคุณธรรมจริยธรรมและคำนึงถึงทัศนคติที่มีต่อการทำงาน ตลอดจนการทำงานร่วมกับผู้อื่นควบคู่ไปกับการผลักดันความเท่าเทียมทางเพศและการไม่เลือกปฏิบัติซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสิทธิมนุษยชนที่บริษัทฯ ยึดถือปฏิบัติในการดำเนินงานโดยการสร้างและขยายโอกาสของพนักงานอย่างเท่าเทียมกันรวมถึงการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่มีการยอมรับ การรับฟังการเคารพและการมีสิทธิมีเสียงอย่างเสมอภาคอีกทั้งยังสนับสนุนบทบาทของผู้หญิงในคณะกรรมการบริษัทฯ และให้มีบทบาทสำคัญต่อการบริหารองค์กรเช่นกัน
1. กระบวนการสรรหาทรัพยากรบุคคลและจัดการด้านแรงงาน
พนักงานถือเป็นกำลังหลักสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ ฉะนั้นแล้วการคัดเลือกบุคคลากรเข้ามาร่วมงานกับองค์กรถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญและส่งผลกระทบทต่อองค์กรเป็นอย่างมาก
โดยบริษัทฯ มีขั้นตอนในการสรรหาทรัพยากรบุคคล ดังนี้
1.1 การวางแผนสรรหาคัดเลือก
สำรวจจำนวนของบุคลากรที่ต้องการในองค์กร พร้อมทำความเข้าใจโครงสร้าง และกลยุทธ์การทำงานในแต่ละฝ่าย โดยพิจารณาคุณสมบัติ ทักษะความเชี่ยวชาญ ความรับผิดชอบของงาน รวมถึงประสบการณ์ที่จำเป็นต่อการทำงาน นอกจากนี้ ยังมีการติดตามแผนการเพิ่มสาขาใหม่หรือการขยายกิจการในอนาคต เพื่อประเมินและวางแผนกลยุทธ์การสรรหาบุคลากร พร้อมทั้งออกแบบกระบวนการคัดเลือกให้เหมาะสมต่อการดำเนินงานให้ตอบสนองความต้องการของบุคลากรและการขยายธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
1.2 การวางแผนสรรหาคัดเลือก
จัดทำเกณฑ์คุณสมบัติของพนักงาน ระบุทักษะที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานในแต่ละตำแหน่งอย่างละเอียดชัดเจน กำหนดระดับความรู้ ความสามารถที่ต้องการ และคุณลักษณะส่วนบุคคลที่เหมาะสม เช่น ความเป็นผู้นำ ความรับผิดชอบ ความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น รวมถึงการกำหนดมาตรฐานการวัดผลและประเมินผลของผู้สมัคร เพื่อให้สามารถประเมินผู้สมัครว่ามีความพร้อมและเหมาะสมกับตำแหน่งงานนั้น ๆ หรือไม่ ซึ่งมาตรฐานเหล่านี้จะช่วยให้กระบวนการคัดเลือกเป็นไปอย่างเป็นระบบและมีความเป็นประสิทธิภาพอย่างมากที่สุด
1.3 การสื่อสารเพื่อสรรหา
บริษัทฯ มีการประกาศรับสมัครงานอย่างเป็นระบบและเชื่อถือได้ โดยใช้ช่องทางที่หลากหลาย เช่น เว็บไซต์ของบริษัท เว็บบอร์ดรับสมัครงาน และสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้สมัครสามารถพบข้อมูลงานที่เปิดรับได้มากขึ้น โดยมีการระบุรายละเอียดงานอย่างชัดเจน เพื่อให้ผู้สมัครเข้าใจความต้องการของตำแหน่งงานได้อย่างถูกต้อง รวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับหน้าที่ ความรับผิดชอบ ระดับเงินเดือนและสวัสดิการอย่างครบถ้วน ทำให้ผู้สมัครเห็นความเป็นมืออาชีพและรู้สึกมั่นใจในการสมัครงาน รวมถึงมีการสื่อสารข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจ ค่านิยมและวัฒนธรรมขององค์กร เพื่อให้ผู้สมัครรับรู้ถึงบรรยากาศในการทำงาน และมีความสนใจเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรได้อย่างมั่นใจ
1.4 การคัดเลือกอย่างสร้างสรรค์
บริษัทฯ มุ่งเน้นการคัดกรองใบสมัครอย่างเป็นธรรมเพื่อคัดเลือกบุคลากรที่มีคุณสมบัติและศักยภาพที่เหมาะสมกับตำแหน่งงาน มีกระบวนการคัดเลือกอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ พิจารณาความพร้อมและความเหมาะสมของผู้สมัครอย่างละเอียดถี่ถ้วน การสัมภาษณ์โดยผู้เชี่ยวชาญในสายงานนั้น ๆ เพื่อทดสอบทักษะเฉพาะ ความคิดสร้างสรรค์ และการทำงานร่วมกันเป็นทีม นอกจากนี้ การประเมินผลจะพิจารณาอย่างครอบคลุมจากทัศนคติและจริยธรรมของผู้สมัคร ซึ่งเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการทำงานกับองค์กร รวมถึงความรู้ ความสามารถ ความเชี่ยวชาญและคุณสมบัติที่ตรงตามความต้องการของบริษัทฯ เป็นปัจจัยที่มีการพิจารณาอย่างเคร่งครัด เนื่องจากมีผลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานและความสำเร็จขององค์กรในระยะยาว
1.5 การร่วมเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร
บุคลากรต้องมีวิสัยทัศน์ที่สอดคล้องกับองค์กร เข้าใจเป้าหมาย กลยุทธ์ และวัฒนธรรม ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทฯ มีส่วนร่วมในการพัฒนาเพื่อช่วยให้องค์กรเติบโตและปรับปรุงการดำเนินงานได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ การพัฒนาตนเองและต่อยอดความรู้ก็เป็นส่วนสำคัญ เนื่องจากการสะสมความรู้และทักษะใหม่ ๆ พร้อมทั้งมีความกระตือรือร้นในการพัฒนาตนเองจะช่วยให้องค์กรมีความแข็งแกร่งและเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
2. สวัสดิการและสิทธิประโยชน์ของบุคลากร
เพื่อให้บุคลากรมีแรงจูงใจในการทำงานที่ดี สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ บริษัทฯ จึงจัดให้มีสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เช่น ที่พักฟรี ค่ารักษาพยาบาล รวมถึงสิทธิการลาเพื่อเลี้ยงดูบุตรจำนวน 98 วันต่อปี เพื่อเป็นการตอบแทนความตั้งใจในการทำงาน ลดความวิตกด้านค่าครองชีพ และสามารถปฏิบัติงานได้อย่างไร้ความกังวล ส่งเสริมการดูแลสุขภาพ โดยจัดให้มีสถานที่ออกกำลังกายที่ได้มาตรฐานเพื่อรองรับพนักงาน ภายในอาคารสำนักงานใหญ่ ห้องพยาบาลพร้อมอุปกรณ์ทางการแพทย์ เวชภัณฑ์ยารักษาโรคเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่บุคลากร มีการจัดกิจกรรมตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี และเพื่อดำรงความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคลากรไว้ บริษัทฯ จึงจัดกิจกรรมสานสัมพันธ์ภายใน กิจกรรมสังสรรค์ การท่องเที่ยวพักผ่อนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดความตึงเครียดที่อาจเกิดจากการปฏิบัติงานเป็นเวลานาน และได้มีการส่งเสริมให้พนักงานมีการออมเงิน ผ่านทางกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ รวมถึงสำรองเงินชดเชยตามกฎหมายให้แก่พนักงานที่มีอายุงานตั้งแต่ 20 ปี 1 วันขึ้นไป เพื่อให้พนักงานมีเงินสำรองไว้ใช้จ่ายภายในอนาคต หรือมีภาระการกู้ยืมเงินฉุกเฉินอีกด้วย
นอกจากนี้พนักงานในองค์กรสามารถมีส่วนร่วมในการเสนอสิทธิประโยชน์และสวัสดิการต่าง ๆ ที่ต้องการได้ ผ่านคณะกรรมการสวัสดิการและช่องทางต่าง ๆ ของบริษัท เช่น เว็บไซต์ Z-Thai, การประชุมภายในฝ่าย หรือการแนะนำผ่านช่องทางการประเมินความพึงพอใจของพนักงาน โดยในปี 2566 คณะกรรมการสวัสดิการได้มีการประชุมทั้งสิ้น 1 ครั้ง เพื่อเปิดโอกาสให้พนักงานทุกคนแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ ซึ่งมีวาระการประชุมที่สำคัญ เช่น การพิจารณาค่าตอบแทนพนักงานรายวันให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และการพิจารณาเสนอการจัดอบรมหลักสูตรหนีไฟให้แก่พนักงาน
3. การอบรมและพัฒนาบุคลากร
บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาของบุคลากร เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ความก้าวหน้าในเส้นทางอาชีพ การจัด “การฝึกอบรมพนักงาน” จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่องค์กรสามารถจัดหาให้พนักงานได้ โดยสำหรับปี 2566 บริษัทฯ ได้มีการจัดอบรมพนักงานเฉลี่ย 11 ชั่วโมง/คน และมีการอบรมทั้งหมด 8 หลักสูตรต่อปี อีกทั้งพนักงานได้ผ่านการทดสอบหลังการอบรมมากกว่า 80% ในเกือบทุกหลักสูตร ซึ่งมากกว่าเป้าหมายที่บริษัทฯ ตั้งไว้ โดยหัวข้อการอบรมของบริษัทฯ มีดังนี้
หลักสูตร | ชั่วโมง/คน | จำนวนผู้เข้าอบรม | ผู้ผ่านการประเมิน | ประโยชน์ |
---|---|---|---|---|
การบริการที่เป็นเลิศ |
3 | 13,933 คน
♂ 12,524 ♀ 1,399 |
12,811 คน
คิดเป็น 92% |
ความเข้าใจและทักษะงานบริการ เกิดทัศนคติที่ดีต่องานบริการ |
พนักงานใหม่ | 6.5 | 3,220 คน
♂ 2,968 ♀ 252 |
3,220 คน
คิดเป็น 100% |
ความเข้าใจวัฒนธรรมและเป้าหมายขององค์กร Turnover Rate ลดลง 18.8% |
พัฒนาศักยภาพในการทำงาน |
6 | 5,014 คน
♂ 4,622 ♀ 392 |
3,538 คน
คิดเป็น 70% |
ทักษะการเป็นผู้นำ และการทำงานเป็นทีม |
ความยั่งยืน | 6 | 13,933 คน
♂ 12,534 ♀ 1,399 |
12,811 คน
คิดเป็น 92% |
ความเข้าใจในการดำเนินงานและธุรกิจภายในองค์กรอย่างยั่งยืน |
ความปลอดภัย และอาชีวอนามัย |
2 | 219 คน
♂ 140 ♀ 79 |
219 คน
คิดเป็น 100% |
ความเข้าใจด้านความปลอดภัย สร้างความตระหนักแก่พนักงาน |
ความเสี่ยง | 3 | 18 คน
♂ 12 ♀ 6 |
18 คน
คิดเป็น 100% |
สามารถบริหารจัดการความเสี่ยงได้ในระดับปฏิบัติการ |
จรรณยาบรรณธุรกิจ | 0.6 | 14,043 คน
♂ 12,633 ♀ 1,410 |
13,948 คน
คิดเป็น 99% |
เกิดความรู้ความเข้าใจด้านจรรยาบรรณธุรกิจ กรณีการเกิดทุจริตคอร์รัปชันเป็น 0 |
สิทธิมนุษยชน | 0.3 | 14,043 คน
♂ 12,633 ♀ 1,410 |
13,889 คน
คิดเป็น 99% |
ตระหนักถึงความสำคัญ ไม่เลือกปฏิบัติ เหตุการณ์ละเมิดสิทธิมนุษยชนเป็น 0 |
4. การบริหารด้านอัตราการจ้างงาน
บริษัทฯ กำหนดเป้าหมายอัตราการรับพนักงานเข้าใหม่ที่ร้อยละ 25 เทียบกับพนักงานภายในองค์กร ณ สิ้นปี 2565 รองรับการขยายสาขาที่เพิ่มขึ้น และเปิดโอกาสให้ผู้มีความสามารถจากทั่วประเทศร่วมเป็นส่วนนึงในการเติบโตขององค์กร รวมถึงตั้งเป้าหมายอัตราการลาออกที่ร้อยละ 16 โดยปี 2566 ที่ผ่านมา มีพนักงานเข้าใหม่จำนวน 3,437 คิดเป็นร้อยละ 26.4 และมีพนักงานพ้นสภาพจำนวน 1,569 คน คิดเป็นร้อยละ 12.1 แบ่งเป็นพนักงานที่ลาออกโดยสมัครใจจำนวน 1,402 คน คิดเป็นร้อยละ 89.4
5. การประเมินผลอย่างเป็นธรรม
เพื่อให้มีหลักเกณฑ์ในการประเมินผลที่มีประสิทธิภาพครอบคลุม บริษัทฯ จึงกำหนดดัชนีชี้วัดความสำเร็จของผลงาน (Key Performance Indicators: KPIs) เป็น 2 ชุดข้อมูล คือ MTC Model สำหรับการประเมินผู้บริหาร และ การประเมินแบบ 360 องศา สำหรับการประเมินพนักงานภายในองค์กร ให้มีทักษะความรู้ คุณธรรมจริยธรรม ทัศนคติที่เหมาะสมต่อการปฏิบัติงาน โดยร้อยละ 100 ของพนักงานทุกคนได้ผ่านการประเมินตามหัวข้อดังต่อไปนี้
ในส่วนของดัชนีชี้วัดความสำเร็จของผลงาน (Key Performance Indicators: KPIs) บริษัทฯ มีการประเมินอย่างเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง และจะถูกนำมาใช้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาปรับค่าตอบแทนของพนักงานในบริษัทฯ
6. ความพึงพอใจของพนักงานใน MTC
บริษัทฯ มีการสำรวจความพึงพอใจของพนักงานในทุกปี โดยจัดทำแบบสอบถามสำหรับพนักงานจำนวน 14,228 คน และมีผู้ตอบแบบสอบถามทั้งสิ้น 8,997 คน คิดเป็น 63.23% ขององค์กร ในปี 2566 มีระดับความพึงพอใจของพนักงานเฉลี่ยร้อยละ 84.68 ซึ่งมีความพึงพอใจเพิ่มขึ้นในทุก ๆ ด้าน โดยประเด็นที่ได้รับความพึงพอใจสูงสุด ได้แก่ ความคิดเห็นเชิงบวกต่อเพื่อนร่วมงานและหัวหน้างาน มีระดับความพึงพอใจที่ร้อยละ 88.98 รองลงมาคือความพึงพอใจของพนักงานที่จะทำงานกับบริษัทต่อไป มีระดับความพึงพอใจที่ร้อยละ 87.01 โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าหมายระดับความพึงพอใจไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ซึ่งเกินกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ แต่ในประเด็นของคุณภาพชีวิตกับการทำงาน มีผลการประเมินที่ต่ำกว่าเกณฑ์เล็กน้อย ทั้งนี้ บริษัทฯ จะนำผลการสำรวจดังกล่าวไปสื่อสารให้กับพนักงานในองค์กรรับทราบและพัฒนากระบวนการดำเนินงานเพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับพนักงานได้ดียิ่งขึ้น โดยจัดทำโครงการเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตการทำงานให้กับพนักงาน มีการจัดอบรม Growth Mindset เพื่อสร้างความเข้าใจในการทำงานของพนักงาน และจัดกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลายจากการทำงาน เช่น การแข่งขันกีฬา และงานเลี้ยงสังสรรค์ตามโอกาส เป็นต้น
ความผูกพันของพนักงาน
ความผูกพันต่อองค์กรมีนัยสำคัญมากกว่าความพึงพอใจในการทำงาน ความรู้สึกที่ดีต่อองค์กร ความรัก ความเชื่อมั่น ยอมรับเป้าหมายและค่านิยมขององค์กร เป็นกุญแจหลักที่คอยผูกมัดพนักงานให้เต็มใจปฏิบัติงาน เพื่อการบรรลุเป้าหมายที่องค์กรกำหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งต้องการที่จะดำรงไว้ซึ่งการเป็นสมาชิกขององค์กรนั้นตลอดไป โดยในปี 2566 ระดับความผูกพันของพนักงานอยู่ที่ร้อยละ 87 ซึ่งมากกว่าปีก่อนหน้า และอัตราการลาออกของพนักงานลดลงจากปี 2565 จากร้อยละ 16.98 เป็นร้อยละ 12.06 เนื่องจาก บริษัทฯ มีการส่งเสริมกิจกรรมสร้างความผูกพันของพนักงาน ได้แก่ การจัดกิจกรรมแข่งขันกีฬาภายในเขต, การท่องเที่ยวประจำปี, การอบรมพนักงาน, การฝึกการทำงานร่วมกัน, และการจัดเลี้ยงสังสรรค์ในวาระต่าง ๆ เป็นประจำ
7. มาตรการรักษาพนักงานให้อยู่กับองค์กร (แรงงานสัมพันธ์)
องค์กรมีความหลากหลายของบุคลากร จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจหากเกิดความขัดแย้งระหว่างกัน ทั้งความขัดแย้งในเรื่องส่วนตัว และเรื่องงาน เพื่อป้องกันหรือควบคุมไม่ให้เกิดขึ้น พร้อมทั้งลดอัตราการเกิดให้เหลือน้อยที่สุด บริษัทฯ จึงมุ่งเน้นไปที่การสร้างมนุษยสัมพันธ์ระหว่างพนักงาน ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้ทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างปกติสุขและเกิดแรงจูงใจ รวมถึงความร่วมแรงร่วมใจในการทำงานเป็นบ่อเกิดของการทำงานที่มีประสิทธิภาพ โดยมีมาตรการหลัก คือ การจัดให้ทำงานเป็นทีม เพื่อให้เกิดการสื่อสาร การให้ความร่วมมือ การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เกิดความสนิทสนม และความสามัคคีกันภายในทีม